สีหเสนาปติสูตร (อังคุตตรนิกาย > สัตตกนิบาต > อัพพยากตวรรค)


สีหเสนาปติสูตร  (ว่าด้วยสีหเสนาบดี)

สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคประทับอยู่  ณ  กูฏาคารศาลา  ป่ามหาวัน  เขตกรุงเวสาลี

ครั้งนั้นแล  สีหเสนาบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ  ถวายอภิวาท  แล้วนั่ง  ณ  ที่สมควร  ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
"พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเองได้ไหม  พระพุทธเจ้าข้า"

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
"สีหะ  ถ้าอย่างนั้น  เราจะย้อนถามท่านในปัญหานั้น
ท่านพึงตอบปัญหานั้นตามที่ท่านชอบใจ
สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ  ในกรุงเวสาลีนี้  มีคน ๒ คน
คนหนึ่งไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
อีกคนหนึ่งมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ

๑. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
พระอรหันต์เมื่อจะอนุเคราะห์  พึงอนุเคราะห์ใครก่อน
ระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระอรหันต์เมื่อจะอนุเคราะห์  จักอนุเคราะห์คนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษก่อนได้อย่างไร
พระอรหันต์เมื่อจะอนุเคราะห์  พึงอนุเคราะห์คนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอก่อนแน่แท้"

"๒. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
พระอรหันต์เมื่อจะเข้าไปหา  พึงเข้าไปหาใครก่อน
ระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระอรหันต์เมื่อจะเข้าไปหา  จักเข้าไปหาคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษก่อนได้อย่างไร
พระอรหันต์เมื่อจะเข้าไปหา  พึงเข้าไปหาคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอก่อนแน่แท้"

"๓. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
พระอรหันต์เมื่อจะรับทาน  พึงรับทานของใครก่อน
ระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระอรหันต์เมื่อจะรับทาน  จักรับทานของคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษก่อนได้อย่างไร
พระอรหันต์เมื่อจะรับทาน  พึงรับทานของคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอก่อนแน่แท้"

"๔. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
พระอรหันต์เมื่อจะแสดงธรรม  พึงแสดงธรรมแก่ใครก่อน
ระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ”

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระอรหันต์เมื่อจะแสดงธรรม  จักแสดงธรรมแก่คนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษก่อนได้อย่างไร
พระอรหันต์เมื่อจะแสดงธรรม  พึงแสดงธรรมแก่คนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอก่อนแน่แท้"

"๕. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
กิตติศัพท์อันงามของใครหนอควรขจรไป
ระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
กิตติศัพท์อันงามของคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ  จักขจรไปได้อย่างไร
กิตติศัพท์อันงามของคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอเท่านั้นพึงขจรไป"

"๖. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
ใครกันเล่าระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ
เข้าไปยังบริษัทใด ๆ  จะเป็นขัตติยบริษัทก็ตาม  พราหมณบริษัทก็ตาม  คหบดีบริษัทก็ตาม  สมณบริษัทก็ตาม  พึงเป็นผู้แกล้วกล้า  ไม่เก้อเขิน  เข้าไปยังบริษัทนั้น ๆ"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
คนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ  เข้าไปยังบริษัทใด ๆ  จะเป็นขัตติยบริษัทก็ตาม  พราหมณบริษัทก็ตาม  คหบดีบริษัทก็ตาม  สมณบริษัทก็ตาม  จักเป็นผู้แกล้วกล้า  ไม่เก้อเขิน  เข้าไปยังบริษัทนั้น ๆ  ได้อย่างไร
คนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ  เข้าไปยังบริษัทใด ๆ  จะเป็นขัตติยบริษัทก็ตาม  พราหมณบริษัทก็ตาม  คหบดีบริษัทก็ตาม  สมณบริษัทก็ตาม  พึงเป็นผู้แกล้วกล้า  ไม่เก้อเขิน  เข้าไปยังบริษัทนั้น ๆ"

"๗. สีหะ  ท่านเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  คือ
ใครกันเล่าระหว่างคนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ
กับคนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ
หลังจากตายแล้ว  พึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
คนไม่มีศรัทธา  ตระหนี่ถี่เหนียว  ชอบด่าบริภาษ  หลังจากตายแล้ว  จักไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ได้อย่างไร
คนมีศรัทธา  เป็นทานบดี  ยินดีให้ทานสม่ำเสมอ  หลังจากตายแล้ว  พึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง ๖ ประการพระผู้มีพระภาคตรัสบอกแล้ว
ในผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง ๖ ประการนั้น
ข้าพระองค์ไม่เพียงแต่เชื่อพระผู้มีพระภาคเท่านั้น  แต่ยังทราบอีกด้วย

ข้าพระองค์เป็นทายก  เป็นทานบดี
พระอรหันต์เมื่อจะอนุเคราะห์  ย่อมอนุเคราะห์ข้าพระองค์ก่อน

ข้าพระองค์เป็นทายก  เป็นทานบดี
พระอรหันต์เมื่อจะเข้าไปหา  ย่อมเข้าไปหาข้าพระองค์ก่อน

ข้าพระองค์เป็นทายก  เป็นทานบดี
พระอรหันต์เมื่อจะรับทาน  ย่อมรับทานของข้าพระองค์ก่อน

ข้าพระองค์เป็นทายก  เป็นทานบดี
พระอรหันต์เมื่อจะแสดงธรรม  ย่อมแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ก่อน

ข้าพระองค์เป็นทายก  เป็นทานบดี
กิตติศัพท์อันงามของข้าพระองค์ขจรไปแล้วว่า  'สีหะเสนาบดีเป็นการกบุคคล  เป็นผู้อุปัฏฐากพระสงฆ์'

ข้าพระองค์เป็นทายก  เป็นทานบดี
เข้าไปยังบริษัทใด ๆ  จะเป็นขัตติยบริษัทก็ตาม  พราหมณบริษัทก็ตาม  คหบดีบริษัทก็ตาม  สมณบริษัทก็ตาม  ย่อมเป็นผู้แกล้วกล้า  ไม่เก้อเขิน  เข้าไปยังบริษัทนั้น ๆ

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง ๖ ประการพระผู้มีพระภาคตรัสบอกแล้ว
ในผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง ๖ ประการนั้น
ข้าพระองค์ไม่เพียงแต่เชื่อพระผู้มีพระภาคเท่านั้น  แต่ยังทราบอีกด้วย

ส่วนผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเองประการที่ ๗
ที่พระผู้มีพระภาคตรัสบอกข้าพระองค์อย่างนี้ว่า
'สีหะ  ทายก  ทานบดี  หลังจากตายแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์'
ข้าพระองค์ยังไม่ทราบ
แต่ในข้อนี้  ข้าพระองค์เชื่อพระผู้มีพระภาค"

"ข้อนั้นเป็นอย่างนั้น  สีหะ
ข้อนั้นเป็นอย่างนั้น  สีหะ
คือ  ทายก  ทานบดี  หลังจากตายแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์"


สีหเสนาปติสูตร  จบ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พยสนสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)

กาลียักขินีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > ยมกวรรค)

ปฏาจาราเถรีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > สหัสสวรรค)