บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2018

สังขธมสูตร (สังยุตตนิกาย > สฬายตนวรรค > คามณิสังยุต)

สังขธมสูตร   (ว่าด้วยคนเป่าสังข์) สมัยหนึ่ง   พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่  ณ  ปาวาริกัมพวัน  เขต เมืองนาฬันทา ครั้งนั้น  ผู้ใหญ่บ้านชื่ออสิพันธกบุตรผู้เป็นสาวกของนิครนถ์   เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ  ถวายอภิวาท  แล้วนั่ง  ณ  ที่สมควร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับผู้ใหญ่บ้าน ชื่ออสิพันธกบุตรดังนี้ว่า "ผู้ใหญ่บ้าน นิครนถ์  นาฏบุตรแสดงธรรมแก่พวกสาวก อย่างไร" ผู้ใหญ่บ้านชื่ออสิพันธกบุตรกราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นิครนถ์   นาฏบุตรแสดงธรรมแก่พวกสาวกอย่างนี้ว่า 'ผู้ฆ่าสัตว์ทั้งหมดต้องไปอบาย  ตกนรก ผู้ลักทรัพย์ทั้งหมดต้องไปอบาย  ตกนรก ผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหมดต้องไปอบาย   ตกนรก ผู้พูดเท็จทั้งหมดต้องไปอบาย  ตกนรก กรรมใด ๆ มีอยู่มาก  กรรมนั้น ๆ  ย่อมนำบุคคลไป' ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นิครนถ์  นาฏบุตรย่อมแสดงธรรมแก่พวก สาวกอย่างนี้" "ผู้ใหญ่บ้าน นิครนถ์  นาฏบุตรแสดงธรรมแก่พวกสาวกว่า  'กรรมใด ๆ มี อยู่มาก  กรรมนั้น ๆ ย่อมนำบุคคลไป' เมื่อเป็นเช่นนั้น  ก็จักไม่มีใคร ๆ ไปอบาย   ตกนรก  ตามคำของนิครนถ์  นาฏบุตรเลย ท่านเข้าใจความข

ทีฆาวุวัตถุ (มหาวรรค > โกสัมพิกขันธกะ)

ทีฆาวุวัตถุ   (ว่าด้วยทีฆาวุกุมาร ) ครั้งนั้น  พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า "ภิกษุทั้งหลาย   เรื่องเคยมีมาแล้ว ในกรุงพาราณสี  ได้มีพระเจ้ากาสีพระนามว่าพรหมทัต  ทรงเป็น กษัตริย์ผู้มั่งคั่ง  มีทรัพย์มาก  มีโภคสมบัติมาก  มีกำลังพลมาก  มีพาหนะมาก  มี อาณาจักรกว้างใหญ่  มีภัณฑาคารห้องเก็บของมีค่าและคลังพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดม สมบูรณ์ พระเจ้าโกศลทรงพระนามว่าทีฆีติ  ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ขัดสน  มีทรัพย์น้อย  มีโภค สมบัติน้อย  มีกำลังพลน้อย  มีพาหนะน้อย  มีอาณาจักรไม่กว้างใหญ่  มีภัณฑาคาร ห้องเก็บของมีค่าและคลังพืช พันธุ์ธัญญาหารไม่อุดมสมบูรณ์ ภิกษุทั้งหลาย  ครั้งนั้น  พระเจ้าพรหมทัตกาสีราชเสด็จคุมกองทหารประกอบ ด้วยองค์ ๔  ไปโจมตีพระเจ้าทีฆีติโกศลราช พระเจ้าทีฆีติโกศลราชทรงสดับว่า  'พระเจ้าพรหมทัตกาสีราช เสด็จคุมกองทหารประกอบด้วยองค์ ๔  มาโจมตีเรา' จึงทรงดำริดังนี้ว่า  "พระเจ้า พรหมทัตกาสีราช  ทรงเป็นกษัตริย์ผู้มั่งคั่ง  มีทรัพย์มาก  มีโภคสมบัติมาก  มีกำลัง พลมาก  มีพาหนะมาก  มีอาณาจักรกว้างใหญ่  มีภัณฑาคารห้องเก็บของมีค่าและ คลังพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบ

วาลสูตร (สังยุตตนิกาย > มหาวารวรรค > สัจจสังยุต > ปปาตวรรค)

วาลสูตร   (ว่าด้วยอุปมาด้วยปลายขนทราย) สมัยหนึ่ง   พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่  ณ  กูฏาคารศาลา  ป่ามหาวัน   เขตกรุงเวสาลี ครั้นในเวลาเช้า  ท่านพระอานนท์ครองอันตรวาสก  ถือบาตรและ จีวร  เข้าไปบิณฑบาตยังกรุงเวสาลี ได้เห็นลิจฉวีกุมารจำนวนมากฝึกยิงลูกศรอยู่ใน สัณฐาคารให้เข้าทางช่องดาลเล็ก ๆ  จากที่ไกล  ติดต่อกันได้  ไม่ผิดพลาด  จึงคิดดังนี้ ว่า "ลิจฉวีกุมารเหล่านี้ฝึกแล้วหนอ  ฝึกดีแล้วหนอ ที่ยิงลูกศรให้เข้าทางช่องดาล เล็ก ๆ  จากที่ไกล  ติดต่อกันได้  ไม่ผิดพลาด" ท่านพระอานนท์ครั้นเที่ยวบิณฑบาตในกรุงเวสาลีแล้ว   กลับจากบิณฑบาต ภายหลังฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว  เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ   ถวายอภิวาท  แล้ว นั่ง  ณ  ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ขอ ประทานวโรกาส เวลาเช้า  ข้าพระองค์ครองอันตรวาสก  ถือบาตรและจีวร   เข้าไป บิณฑบาตยังกรุงเวสาลี ได้เห็นลิจฉวีกุมารจำนวนมากฝึกยิงลูกศรอยู่ในสัณฐาคาร ให้เข้าทางช่องดาลเล็ก ๆ  จากที่ไกล  ติดต่อกันได้  ไม่ผิดพลาด   จึงคิดดังนี้ ว่า 'ลิจฉวีกุมารเหล่านี้ฝึกแล้วหนอ  ฝึกดีแล้วหนอ ที่ยิง