บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2018

โลสกชาดก (ขุททกนิกาย > ชาดก > เอกกนิบาต > อัตถกามวรรค)

โลสกชาดก   (ว่าด้วยคนโลเลต้องเศร้าโศก) พระโพธิสัตว์เล่าเรื่องนายมิตตพินทุกะที่ไม่ทำตามคำสอนของผู้หวังความเจริญ   จึงได้รับทุกข์  แล้วได้กล่าวว่า        "ผู้ใดที่คนอื่นผู้มีจิตเกื้อกูล  อ่อนโยน  กล่าวสอนอยู่ ไม่กระทำตามคำสอนของบุคคลผู้หวังความเจริญ ผู้อนุเคราะห์ด้วยเหตุอันเป็นประโยชน์ ผู้นั้นย่อมเศร้าโศก  เหมือนมิตตพินทุกะจับขาแพะแล้วเศร้าโศก อยู่ ฉะนั้น " โลสกชาดก  จบ อรรถกถา พระศาสดาเมื่อประทับอยู่   ณ  พระ เชตวัน มหาวิหาร   ทรงปรารภพระโลสกติสสเถระ   จึงได้ตรัสเรื่องนี้ ก็พระเถระผู้มีชื่อว่า  โลสกะ  นี้  คือใคร  มีประวัติเป็นมา อย่างไร ท่านเป็นบุตรของชาวประมงคนหนึ่ง  ในแคว้นโกศล  เป็น ผู้ทำลายตระกูลวงศ์ของตน  ไม่มีลาภ  มาบวชในหมู่ภิกษุ ได้ยินมาว่า  ท่านจุติจากที่ที่ท่านเกิดแล้ว  ถือปฏิสนธิใน ท้องของหญิงชาวประมงนางหนึ่ง  ณ  หมู่บ้านชาวประมงตำบล หนึ่ง  ซึ่งอยู่ร่วมกันถึง ๑,๐๐๐ ครอบครัว  ในแคว้นโกศล ในวันที่ ท่านถือปฏิสนธิ  ชาวประมงทั้ง ๑,๐๐๐ ครอบครัวนั้นพากันถือข่าย เที่ยวหาปลาในลำน้ำและบ่อบึง   แต่ไม่ได้แม้แต่ปลาตัวเล็ก ๆ สัก ตัวหนึ่ง และนับแต่วันนั้นมา 

ปุคคลสูตร (สังยุตตนิกาย > สคาถวรรค > โกสลสังยุต > ตติยวรรค)

ปุคคลสูตร   (ว่าด้วยบุคคล ๔ ประเภท) สมัยหนึ่ ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่  ณ  พระเชตวัน  อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี  เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น  พระเจ้าปเสนทิโกศลได้เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาท  แล้วประทับนั่ง  ณ  ที่สมควร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับพระเจ้า ปเสนทิโกศลดังนี้ว่า " มหาบพิตร  บุคคล ๔ จำพวกนี้   มีปรากฏอยู่ในโลก บุคคล ๔ จำพวกไหนบ้าง  คือ ๑. บุคคลผู้มืดมาและมืดไป ๒. บุคคลผู้มืดมาแต่สว่างไป ๓. บุคคลผู้สว่างมาแต่มืดไป ๔. บุคคลผู้สว่างมาและสว่างไป บุคคลผู้มืดมาและมืดไป   เป็นอย่างไร คือ  บุคคลบางคนในโลกนี้เกิดในตระกูลต่ำ  คือ  ตระกูลจัณฑาล  ตระกูล ช่างสาน  ตระกูลนายพราน  ตระกูลช่างรถ  หรือตระกูลคนเทขยะ เป็นตระกูล ยากจน  มีข้าว  น้ำ  และสิ่งของเครื่องใช้น้อย   เป็นไปอย่างฝืดเคือง  เป็นแหล่งที่หา ของกินและเครื่องนุ่งห่มได้ยาก และเขามีผิวพรรณหม่นหมอง  ไม่น่าดู  ต่ำเตี้ย มีความเจ็บป่วยมาก  ตาบอด  เป็นง่อย  เป็นคนกระจอก  หรือเป็นโรคอัมพาต มักไม่ได้ข้าว  น้ำ  ผ้า  ยาน  ดอกไม้  ของหอม  เครื่องลูบไล้  ที่นอน  ที่พัก  และเครื่อง ประทีป และเขายั

อนาถปิณฑิกปุตตกาลวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > โลกวรรค)

อนาถปิณฑิกปุตตกาล วัตถุ   (เรื่องนายกาละบุตรของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ) พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่อนาถบิณฑิกเศรษฐี   ดังนี้ว่า        " โสดาปัตติผล ประเสริฐกว่าความเป็นเอกราชในแผ่นดิน กว่าการไปสู่สวรรค์ หรือกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง " อนาถปิณฑิกปุตตกาล วัตถุ   จบ อรรถกถา สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคประทับอยู่  ณ  พระเชตวัน  อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี  เขตกรุงสาวัตถี ทรงปรารภบุตรของ ท่านอนาถบิณฑิกะ  ชื่อว่า  กาละ  ตรัสพระธรรมเทศนา นี้ว่า [  บิดาจ้างบุตรให้ฟังธรรม  ] ได้ ยินว่า นายกาละนั้นเป็นบุตรเศรษฐีผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยศรัทธา เช่นนั้น แต่ไม่ปรารถนาจะไปสู่สำนักของพระศาสดาเลย  ไม่ปรารถนาจะฟัง ธรรม  ไม่ปรารถนาจะทำการขวนขวายแก่สงฆ์ แม้ถูกบิดาพูดว่า  "ลูกเอ๋ย  เจ้า อย่าทำอย่างนี้" ก็ไม่ฟังคำของท่าน ลำดับนั้น  บิดาของเขาคิดว่า "เจ้ากาละนี้  เมื่อถือทิฏฐิเห็นปานนี้ เที่ยวไป  จักเป็นผู้มีอเวจีเป็นที่ไปในเบื้องหน้า ก็เมื่อเรายังเห็นอยู่  ถ้าบุตร ของเราพึงไปสู่นรก   ข้อนั้นไม่สมควรแก่เราเลย ขึ้นชื่อว่าสัตว์ผู้ไม่เพ่ง เล็งเพราะการให้ทรัพย์  ไม่ม