ทุติยอปุตตกสูตร (สังยุตตนิกาย > สคาถวรรค > โกสลสังยุต > ทุติยวรรค)


ทุติยอปุตตกสูตร  (ว่าด้วยทรัพย์ที่ไม่มีบุตร  สูตรที่ ๒)

สมัยหนึ่ง
พระผู้มีพระภาคประทับอยู่  ณ  พระเชตวัน  อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี  เขตกรุงสาวัตถี

ครั้งนั้น  พระเจ้าปเสนทิโกศลได้เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคแต่ยังวัน
ถวายอภิวาท  แล้วประทับนั่ง  ณ  ที่สมควร

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับพระเจ้าปเสนทิโกศลดังนี้ว่า 
"เชิญเถิด  มหาบพิตร  พระองค์เสด็จมาจากไหนแต่ยังวัน"

พระเจ้าปเสนทิโกศลกราบทูลว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
คหบดีผู้เป็นเศรษฐีในกรุงสาวัตถีนี้ถึงแก่กรรมแล้ว
ข้าพระองค์ให้ขนทรัพย์สมบัติที่ไม่มีบุตรนั้นมาไว้ในพระราชวัง
แล้วจึงมาเข้าเฝ้า
เฉพาะเงินเท่านั้น  มี ๑๐,๐๐๐,๐๐๐
ส่วนเครื่องเงินนั้นไม่ต้องพูดถึง

อนึ่ง  คหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น
ได้บริโภคอาหารเช่นนี้  คือ  บริโภคปลายข้าวกับน้ำผักดอง
ได้ใช้ผ้าเครื่องนุ่งห่มเช่นนี้  คือ  นุ่งห่มผ้าเนื้อหยาบที่ตัดเป็นสามชิ้นเย็บติดกัน
ได้ใช้ยานพาหนะเช่นนี้  คือ  ใช้รถเก่า ๆ  กั้นร่มทำด้วยใบไม้"

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
"มหาบพิตร  ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
มหาบพิตร  ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
เรื่องเคยมีมาแล้ว

คหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นได้สั่งให้จัดเตรียมบิณฑบาตถวายพระปัจเจกสัมพุทธเจ้าพระนามว่าตครสิขีว่า
'ท่านทั้งหลาย  จงถวายอาหารบิณฑบาตแก่สมณะ'
แล้วลุกจากอาสนะเดินจากไป

ภายหลัง  ได้มีความเสียดายว่า
'อาหารบิณฑบาตนี้ให้ทาสหรือกรรมกรบริโภคยังดีกว่า'

นอกจากนี้
เขายังปลิดชีวิตบุตรน้อยคนเดียวของพี่ชาย
เพราะทรัพย์สมบัติเป็นเหตุอีกด้วย

มหาบพิตร
ด้วยผลของกรรมที่คหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นสั่งให้จัดเตรียมอาหารบิณฑบาต
ถวายพระปัจเจกสัมพุทธเจ้าพระนามว่าตครสิขี
เขาจึงบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ๗ ครั้ง
ด้วยเศษผลของกรรมนั้นเหมือนกัน
ได้เป็นเศรษฐีในกรุงสาวัตถีนี้แหละถึง ๗ ครั้ง

มหาบพิตร
ด้วยผลของกรรมที่คหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นถวายอาหารบิณฑบาต
แล้วภายหลังได้มีความเสียดายว่า
'อาหารบิณฑบาตนี้ให้ทาสหรือกรรมกรบริโภคยังดีกว่า'
เขาจึงไม่คิดอยากบริโภคอาหารอันมากมาย
ไม่คิดอยากใช้ผ้าเครื่องนุ่งห่มอันมากมาย
ไม่คิดอยากใช้ยานพาหนะอย่างโอ่อ่า
ไม่คิดอยากบริโภคกามคุณ ๕ ที่ดี ๆ

มหาบพิตร
อนึ่ง  ด้วยผลของกรรมที่คหบดีผู้เศรษฐีนั้นปลิดชีวิตบุตรน้อยคนเดียวของพี่ชาย
เพราะทรัพย์สมบัติเป็นเหตุ
เขาจึงถูกไฟเผาอยู่ในนรกหลายปี  หลายร้อยปี  หลายพันปี  หลายแสนปี
ด้วยเศษผลของกรรมนั้นเหมือนกัน
ทรัพย์สมบัติที่ไม่มีบุตรรับเอา  จึงถูกขนเข้าคลังหลวงนี้เป็นครั้งที่ ๗

มหาบพิตร
ก็บุญเก่าของคหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นหมดสิ้นแล้ว
และบุญใหม่ก็ไม่ได้สะสมไว้
ในวันนี้  คหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นถูกไฟเผาอยู่ในมหาโรรุวนรก"

พระเจ้าปเสนทิโกศลทูลถามว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
คหบดีผู้เป็นเศรษฐีบังเกิดในมหาโรรุวนรกอย่างนั้นหรือ"

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
"อย่างนั้น  มหาบพิตร
คหบดีผู้เป็นเศรษฐีบังเกิดในมหาโรรุวนรกแล้ว"

จากนั้น  พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถานี้ว่า
       "ข้าวเปลือก  ทรัพย์  เงินทอง
สิ่งของที่หวงแหนอย่างใดอย่างหนึ่ง
หรือทาส  กรรมกร  คนรับใช้  และผู้อาศัยที่มีอยู่
ทั้งหมดนั้น  เขานำไปไม่ได้
จำต้องละทิ้งไว้ทั้งหมด
       อนึ่ง  บุคคลทำกรรมใดทางกาย  ทางวาจา  หรือทางใจ
กรรมนั้นแลเป็นสมบัติของเขา
ทั้งเขาจะนำกรรมนั้นไปได้
       อนึ่ง  กรรมนั้นย่อมติดตามเขาไป
ดุจเงาติดตามตัวไป  ฉะนั้น
เพราะฉะนั้น  บุคคลควรทำกรรมดี
สะสมไว้เป็นสมบัติในโลกหน้า
เพราะบุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า"


ทุติยอปุตตกสูตร  จบ



บทความที่เกี่ยวข้อง
๑. สมบัติที่จำเป็นต้องมี


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พยสนสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)

กาลียักขินีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > ยมกวรรค)

ปฏาจาราเถรีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > สหัสสวรรค)