พิลังคิกสูตร (สังยุตตนิกาย > สคาถวรรค > พราหมณสังยุต > อรหันตวรรค)
พิลังคิกสูตร (ว่าด้วยพิลังคิกพราหมณ์)
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่ให้เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์
พิลังคิกภารทวาชพราหมณ์ได้สดับมาว่า
"ได้ยินว่า
พราหมณ์ภารทวาชโคตรออกจากเรือน
บวชเป็นบรรพชิตในสำนักของพระสมณโคดม"
จึงโกรธ ไม่พอใจ
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้วได้ยืนนิ่งอยู่ ณ ที่สมควร
ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคทรงทราบความคิดคำนึงของพิลังคิกภารทวาชพราหมณ์ด้วยพระทัยแล้ว
ได้ตรัสกับพิลังคิกภารทวาชพราหมณ์ด้วยพระคาถาว่า
"ผู้ใดประทุษร้ายต่อบุคคลผู้ไม่ประทุษร้าย
ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน
บาปย่อมกลับมาถึงบุคคลนั้นซึ่งเป็นคนพาลอย่างแน่แท้
ดุจผงธุลีอันละเอียดที่บุคคลซัดไปทวนลมแล้ว ฉะนั้น"
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว
พิลังคิกภารทวาชพราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
"ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
พระภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
พระภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก
พระโคดมผู้เจริญทรงประกาศธรรมแจ่มแจ้งโดยประการต่าง ๆ
เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง
หรือตามประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีตาดีจักเห็นรูปได้
ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระโคดมผู้เจริญ
พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณะ
ขอข้าพระองค์พึงได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระโคดมผู้เจริญเถิด"
พิลังคิกภารทวาชพราหมณ์
ได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคแล้ว
ท่านพระพิลังคิกภารทวาชะอุปสมบทแล้วไม่นาน
หลีกออกไปอยู่คนเดียว ไม่ประมาท
มีความเพียร อุทิศกายและใจอยู่
ไม่นานนัก ก็ทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยม
อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์
ที่เหล่ากุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ
ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงอยู่ในปัจจุบัน
รู้ชัดว่า 'ชาติสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว
ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
ไม่มีกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป'
อนึ่ง ท่านพระพิลังคิกภารทวาชะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง
ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย
พิลังคิกสูตร จบ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น