ตติยอนาคตภยสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ทุติยปัณณาสก์ > โยธาชีววรรค)


ตติยอนาคตภยสูตร  (ว่าด้วยภัยในอนาคต  สูตรที่ ๓)

สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า
"ภิกษุทั้งหลาย
ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้  ยังไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยเหล่านั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้นเสีย

ภัยในอนาคต ๕ ประการ  อะไรบ้าง  คือ

๑. ในอนาคต
หมู่ภิกษุจักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

เมื่อไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา
ให้กุลบุตรเหล่าอื่นอุปสมบท
ก็จักไม่สามารถแนะนำกุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล  อธิจิต  และอธิปัญญาได้
แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

เมื่อไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา
ให้กุลบุตรเหล่าอื่นอุปสมบทอีก
ก็จักไม่สามารถแนะนำกุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล  อธิจิต  และอธิปัญญาได้
ถึงกุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

โดยนัยนี้แล
เพราะธรรมเลอะเลือน  วินัยจึงเลอะเลือน
เพราะวินัยเลอะเลือน  ธรรมจึงเลอะเลือน

ภัยในอนาคตประการที่ ๑ นี้  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยนั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยนั้นเสีย

๒. ในอนาคต
หมู่ภิกษุจักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต    ไม่เจริญปัญญา

เมื่อไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา
ให้นิสสัยแก่กุลบุตรเหล่าอื่น
ก็จักไม่สามารถแนะนำกุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล  อธิจิต  และอธิปัญญาได้
แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

เมื่อไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา
ให้นิสสัยแก่กุลบุตรเหล่าอื่นอีก
ก็จักไม่สามารถแนะนำกุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล  อธิจิต  และอธิปัญญาได้
ถึงกุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

โดยนัยนี้แล
เพราะธรรมเลอะเลือน  วินัยจึงเลอะเลือน
เพราะวินัยเลอะเลือน  ธรรมจึงเลอะเลือน

ภัยในอนาคตประการที่ ๒ นี้  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยนั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยนั้นเสีย

๓. ในอนาคต
หมู่ภิกษุจักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

เมื่อไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา
แสดงอภิธัมมกถา  เวทัลลกถา  ถลำลงสู่ธรรมดำ  ก็จักไม่รู้ตัว

โดยนัยนี้แล
เพราะธรรมเลอะเลือน  วินัยจึงเลอะเลือน
เพราะวินัยเลอะเลือน  ธรรมจึงเลอะเลือน

ภัยในอนาคตประการที่ ๓ นี้  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยนั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยนั้นเสีย

๔. ในอนาคต
หมู่ภิกษุจักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

เมื่อผู้อื่นกล่าวสูตรที่ตถาคตตรัสไว้  ล้ำลึก  มีเนื้อความลึกซึ้ง  เป็นโลกุตตรธรรม  ประกอบด้วยความว่าง
ภิกษุเหล่านั้นไม่ตั้งใจฟังด้วยดี  ไม่เงี่ยโสตสดับ  ไม่ตั้งใจใฝ่รู้  และไม่ให้ความสำคัญธรรมว่าควรเรียน  ควรท่องจำให้ขึ้นใจ

แต่เมื่อผู้อื่นกล่าวสูตรที่ท่านผู้เชี่ยวชาญได้รจนาไว้  เป็นบทกวี  มีอักษรวิจิตร  มีพยัญชนะวิจิตร  อยู่ภายนอก (นอกพระพุทธศาสนา)  เป็นสาวกภาษิต (เป็นภาษิตของเหล่าสาวกของเจ้าลัทธินอกพุทธศาสนา)
ภิกษุเหล่านั้นกลับตั้งใจฟังด้วยดี  เงี่ยโสตสดับ  ตั้งใจใฝ่รู้  และให้ความสำคัญธรรมว่าควรเรียน  ควรท่องจำให้ขึ้นใจ

โดยนัยนี้แล
เพราะธรรมเลอะเลือน  วินัยจึงเลอะเลือน
เพราะวินัยเลอะเลือน  ธรรมจึงเลอะเลือน

ภัยในอนาคตประการที่ ๔ นี้  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยนั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยนั้นเสีย

๕. ในอนาคต
หมู่ภิกษุจักไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา

เมื่อไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา
ภิกษุผู้เถระก็จักเป็นผู้มักมาก  เป็นผู้ย่อหย่อน  เป็นผู้นำในโอกกมนธรรม (นิวรณ์ ๕)  ทอดธุระในปวิเวก (นิพพาน)
จักไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง
เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ
เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง

หมู่คนรุ่นหลังก็จักพากันตามอย่างพวกภิกษุเถระเหล่านั้น
แม้หมู่คนรุ่นหลังนั้นก็จักเป็นผู้มักมาก  เป็นผู้ย่อหย่อน  เป็นผู้นำในโอกกมนธรรม  ทอดธุระในปวิเวก
จักไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง
เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ
เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง

โดยนัยนี้แล
เพราะธรรมเลอะเลือน  วินัยจึงเลอะเลือน
เพราะวินัยเลอะเลือน  ธรรมจึงเลอะเลือน

ภัยในอนาคตประการที่ ๕ นี้  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยนั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยนั้นเสีย

ภิกษุทั้งหลาย
ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้แล  ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้  แต่จักเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ภัยเหล่านั้นเธอทั้งหลายพึงรับรู้ไว้  และพึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้นเสีย"


ตติยอนาคตภยสูตร  จบ



บทความที่เกี่ยวข้อง
๑. แสดงอาบัติบ่อย  ดีหรือไม่


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พยสนสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)

กาลียักขินีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > ยมกวรรค)

ปฏาจาราเถรีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > สหัสสวรรค)