สัมพหุลภิกขุสูตร (สังยุตตนิกาย > สฬายตนวรรค > สฬายตนสังยุต > ทุติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)


สัมพหุลภิกขุสูตร  (ว่าด้วยภิกษุหลายรูป)

สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคประทับอยู่  ณ  พระเชตวัน  อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี  เขตกรุงสาวัตถี

ครั้งนั้น  ภิกษุหลายรูปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ  ถวายอภิวาท  แล้วนั่ง  ณ  ที่สมควร
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกในโลกนี้ถามข้าพระองค์ทั้งหลายอย่างนี้ว่า
'ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย  พวกท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระสมณโคดมเพื่อต้องการอะไร'
ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกถามอย่างนี้  จึงตอบอัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า
'ผู้มีอายุทั้งหลาย  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อกำหนดรู้ทุกข์'

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกถามอย่างนี้  จึงตอบอย่างนี้
ชื่อว่าพูดตรงตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้
ไม่ชื่อว่ากล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยคำเท็จหรือ
ชื่อว่ากล่าวแก้อย่างสมเหตุสมผลหรือ
ไม่มีบ้างหรือที่คำกล่าวเช่นนั้นและคำที่กล่าวต่อ ๆ กันมาจะเป็นเหตุให้ถูกตำหนิได้  พระพุทธเจ้าข้า"

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า  "ดีละ  ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้  จึงตอบอย่างนี้
ชื่อว่าพูดตรงตามคำที่เราพูดไว้
ไม่ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำเท็จ
ชื่อว่ากล่าวแก้อย่างสมเหตุสมผล
ไม่มีที่คำกล่าวเช่นนั้นและคำที่กล่าวต่อ ๆ กันมาจะเป็นเหตุให้ถูกตำหนิได้

ภิกษุทั้งหลาย  เพราะเธอทั้งหลายประพฤติพรหมจรรย์ในเราเพื่อกำหนดรู้ทุกข์
ถ้าพวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกจะพึงถามเธอทั้งหลายว่า
'ผู้มีอายุทั้งหลาย  ก็ทุกข์ที่พวกท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระสมณโคดมเพื่อกำหนดรู้นั้นเป็นอย่างไร'

เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้  พึงตอบอัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า  'ผู้มีอายุ
- จักขุ (ตา) เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้จักขุที่เป็นทุกข์นั้น
- รูปเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้รูปที่เป็นทุกข์นั้น
- จักขุวิญญาณเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้จักขุวิญญาณที่เป็นทุกข์นั้น
- จักขุสัมผัสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้จักขุสัมผัสที่เป็นทุกข์นั้น
- แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัยก็เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัยที่เป็นทุกข์นั้น

- โสตะ (หู) เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้โสตะที่เป็นทุกข์นั้น
- เสียงเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้เสียงที่เป็นทุกข์นั้น
- โสตวิญญาณเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้โสตวิญญาณที่เป็นทุกข์นั้น
- โสตสัมผัสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้โสตสัมผัสที่เป็นทุกข์นั้น
- แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัยก็เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัยที่เป็นทุกข์นั้น

- ฆานะ (จมูก) เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ฆานะเป็นทุกข์นั้น
- กลิ่นเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้กลิ่นที่เป็นทุกข์นั้น
- ฆานวิญญาณเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ฆานวิญญาณที่เป็นทุกข์นั้น
- ฆานสัมผัสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ฆานสัมผัสที่เป็นทุกข์นั้น
- แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัยก็เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัยที่เป็นทุกข์นั้น

- ชิวหา (ลิ้น) เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ชิวหาที่เป็นทุกข์นั้น
- รสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้รสที่เป็นทุกข์นั้น
- ชิวหาวิญญาณเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ชิวหาวิญญาณที่เป็นทุกข์นั้น
- ชิวหาสัมผัสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ชิวหาสัมผัสที่เป็นทุกข์นั้น
- แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัยก็เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัยที่เป็นทุกข์นั้น

- กายเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้กายที่เป็นทุกข์นั้น
- โผฏฐัพพะเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้โผฏฐัพพะที่เป็นทุกข์นั้น
- กายวิญญาณเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้กายวิญญาณที่เป็นทุกข์นั้น
- กายสัมผัสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้กายสัมผัสที่เป็นทุกข์นั้น
- แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัยก็เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัยที่เป็นทุกข์นั้น

- มโนเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้มโนที่เป็นทุกข์นั้น
- ธรรมารมณ์เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ธรรมารมณ์ที่เป็นทุกข์นั้น
- มโนวิญญาณเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้มโนวิญญาณที่เป็นทุกข์นั้น
- มโนสัมผัสเป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้มโนสัมผัสที่เป็นทุกข์นั้น
- แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัยก็เป็นทุกข์
  พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค
  เพื่อกำหนดรู้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข  หรือทุกข์  หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์
  ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัยที่เป็นทุกข์นั้น

ผู้มีอายุทั้งหลาย  ข้อนี้แลคือทุกข์
พวกเราประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อกำหนดรู้ทุกข์นั้น'

ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้  พึงตอบอัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้"

สัมพหุลภิกขุสูตร  จบ



บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พยสนสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)

กาลียักขินีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > ยมกวรรค)

ปฏาจาราเถรีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > สหัสสวรรค)