ปุณณาเถรีคาถา (ขุททกนิกาย > เถรีคาถา > โสฬสกนิบาต)



ปุณณาเถรีคาถา  (ภาษิตของพระปุณณาเถรี)

พระปุณณาเถรีรูปนี้  เป็นผู้มีอธิการอันทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ  สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้ในภพนั้น ๆ

ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคพระนามว่าวิปัสสี  นางเกิดในเรือนมีตระกูล  ถึงความเป็นผู้ใหญ่แล้ว  มีกุศลมูลตักเตือน  จึงไปฟังธรรมในสำนักภิกษุณี  ได้ศรัทธาจึงบวช  เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์  เรียนพระไตรปิฎก  เป็นพหูสูต  ทรงธรรม  และเป็นธรรมกถึก

แม้ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคพระนามว่าสิขี  เวสสภู  กกุสันธะ  โกนาคมนะ  และกัสสปะ  นางก็ได้บวชเช่นกัน  เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล  เป็นพหูสูต  ทรงธรรม  และเป็นธรรมกถึกเหมือนทุกครั้ง

แต่เพราะเป็นคนมีมานะ  ถือตัว  จึงไม่อาจตัดกิเลสได้  และเพราะได้ทำกรรมด้วยใจมีมานะนี่เอง  ทำให้ต้องมาเกิดในท้องของนางทาสี  ในสมัยพุทธกาลนี้  อยู่ในเรือนของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี  ในกรุงสาวัตถี  (เกิดเป็นทาสในเรือนเบี้ย)  มีชื่อว่าปุณณา

นางมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเทศนา  บรรลุเป็นพระโสดาบันทั้ง ๆ ที่อยู่ในเพศฆราวาสนั่นแหละ

วันหนึ่ง  ในฤดูหนาว  นางปุณณาทาสีไปที่ท่าน้ำเพื่อเอาหม้อตักน้ำกลับไปยังเรือน

ณ  ที่นั้น  ได้พบกับพราหมณ์ผู้หนึ่งซึ่งถือลัทธิความเชื่อว่า  "สัตว์บริสุทธิ์ได้ด้วยการอาบน้ำ"
แม้อากาศจะเหน็บหนาว  พราหมณ์นั้นก็ลงไปในแม่น้ำแต่เช้ามืด  ดำน้ำมิดทั้งศีรษะ  ร่ายมนต์  แล้วขึ้นจากน้ำ  ผ้าเปียก  ผมเปียก  สั่นเทิ้ม  ฟันกระทบกันรัวอยู่

เมื่อนางปุณณาทาสีเห็นดังนั้นแล้ว  ก็เกิดความกรุณา  อยากช่วยพราหมณ์นั้นให้พ้นจากความเห็นผิดนั้น  จึงกล่าวกับพราหมณ์ว่า
"เราเป็นหญิงตักน้ำ  เพราะกลัวเจ้านายลงโทษ  และกลัวถูกเจ้านายดุด่า  จึงต้องมาตักน้ำและลงน้ำแม้แต่หน้าหนาว
ท่านพราหมณ์  ท่านกลัวอะไร  จึงลงอาบน้ำตลอดเวลา  มีตัวสั่นเทา  ทนสู้ความหนาวเย็นอันร้ายกาจนี้"

พราหมณ์กล่าวตอบว่า
"นางปุณณาผู้เจริญ  นางรู้อยู่ก็ยังถามอีก  เรากำลังทำกุศลกรรม  เพื่อกำจัดบาปอกุศลอยู่น่ะสิ
ใครก็ตามไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่  ถ้าทำบาปกรรมไว้  ก็ย่อมจะพ้นจากบาปกรรมนั้นได้ด้วยการลงอาบน้ำ"

นางปุณณาทาสีกล่าวว่า
"ใครหนอช่างไม่รู้  มาบอกท่านพราหมณ์อย่างนี้ว่าจะพ้นจากบาปกรรมได้ด้วยการลงอาบน้ำ
พวกกบ  เต่า  งู  จรเข้  และสัตว์อื่นที่อยู่ในน้ำทั้งหมดก็คงจะพากันไปสวรรค์เป็นแน่
คนฆ่าแพะ  คนฆ่าหมู  คนฆ่าปลา  พรานล่าเนื้อ  พวกโจร  พวกเพชฌฆาต  และผู้ทำบาปกรรมอื่น ๆ  ก็คงจะหลุดพ้นจากบาปกรรมได้เพราะการลงอาบน้ำนี้
...
ถ้าหากว่าแม่น้ำนี้จะสามารถชำระล้างบาปที่ท่านทำมาแต่ก่อนได้  ทำให้ท่านหมดบาปได้จริงไซร้
แม่น้ำนี้ก็คงจะชำระล้างเอาบุญของท่านไปด้วย  ท่านก็จะเป็นผู้หมดบุญเช่นกัน
...
ท่านพราหมณ์  ถ้าท่านต้องมาลงอาบน้ำแม้แต่หน้าหนาวนี้เพราะกลัวผลของบาป
ท่านก็อย่าได้ทำบาปอันจะให้ผลเป็นทุกข์นั้นเลย
ขอความหนาวเย็นอย่าทำลายผิวของท่านเลย"

พราหมณ์ได้ฟังดังนั้นแล้ว  ใคร่ครวญเห็นจริงตามที่นางปุณณากล่าว  จึงกล่าวว่า
"นางปุณณาผู้เจริญ  นางทำเราผู้มีความเห็นผิดให้มีความเห็นที่ถูกต้องแล้ว
เราขอมอบผ้าสาฎกผืนนี้เพื่อตอบแทนนาง"

นางปุณณาทาสีกล่าวว่า
"ท่านพราหมณ์  ผ้าสาฎกผืนนี้จงเป็นของท่านตามเดิมเถิด  เราไม่ต้องการผ้าสาฎกหรอก
ถ้าท่านกลัวทุกข์  ถ้าทุกข์ไม่น่ารักสำหรับท่านไซร้
ท่านก็อย่าได้ทำบาปอกุศลกรรมทั้งหลาย  ทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง
ถ้าท่านทำบาปอกุศลกรรม  ถึงท่านจะเหาะหนีไปที่ใด  ก็ไม่พ้นจากทุกข์ได้เลย
...
ถ้าท่านกลัวทุกข์  ถ้าทุกข์ไม่น่ารักสำหรับท่าน
ท่านก็จงถึงพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  เป็นสรณะ
จงตั้งมั่นในศีล
ข้อนั้นแหละจะเป็นไปเพื่อความไม่มีทุกข์ของท่าน"

พราหมณ์นั้นได้ถึงพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  เป็นสรณะ  และตั้งมั่นอยู่ในศีลแล้ว
ต่อมา  ได้ไปฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เกิดศรัทธา  จึงขอบวช  ได้เพียรพยายามอยู่  ไม่นานก็บรรลุอรหัตผล

ครั้งนั้น  เมื่อท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทราบเรื่องที่นางปุณณาทาสีได้ทำให้พราหมณ์เปลี่ยนความเห็นผิดมาเป็นความเห็นที่ถูกต้องได้  ก็เกิดความนับถือ  จึงประกาศให้นางเป็นไท  อนุญาตให้นางบวช
ครั้นบวชแล้ว  เจริญกรรมฐาน  ไม่นานนัก  พระปุณณาเถรีก็บรรลุอรหัตผล

ปุณณาเถรีคาถา  จบ



บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พยสนสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)

กาลียักขินีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > ยมกวรรค)

ปฏาจาราเถรีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > สหัสสวรรค)