ทานสูตร (อังคุตตรนิกาย > ฉักกนิบาต > ปฐมปัณณาสก์ > เทวตาวรรค)


ทานสูตร  (ว่าด้วยองค์แห่งทักษิณาทาน)

สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคประทับอยู่  ณ  พระเชตวัน  อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี  เขตกรุงสาวัตถี

สมัยนั้น  อุบาสิกาชื่อนันทมาตา  ชาวเมืองเวฬุกัณฑกะ  ถวายทักษิณาอันประกอบด้วยองค์  ๖  ในหมู่ภิกษุมีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นประธาน

พระผู้มีพระภาคได้ทรงเห็นอุบาสิกาชื่อนันทมาตา  ชาวเมืองเวฬุกัณฑกะนั้นแล้ว  จึงรับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า
"ภิกษุทั้งหลาย  อุบาสิกาชื่อนันทมาตา  ชาวเมืองเวฬุกัณฑกะนั้น  ถวายทานอันประกอบด้วยองค์  ๖  ในหมู่ภิกษุมีสารีบุตรและโมคคัลลานะเป็นประธาน

ทักษิณาอันประกอบด้วยองค์  ๖  เป็นอย่างไร  คือ
ฝ่ายทายก (ผู้ให้)  มีองค์  ๓  ประการ
ฝ่ายปฏิคาหก (ผู้รับ)  มีองค์  ๓  ประการ

องค์  ๓  ประการของทายก  อะไรบ้าง  คือ
ทายกในธรรมวินัยนี้
๑. ก่อนให้  ก็มีใจดี
๒. กำลังให้  ก็ทำจิตให้เลื่อมใส
๓. ครั้นให้แล้ว  ก็มีใจเบิกบาน
นี้คือองค์  ๓  ประการของทายก

องค์  ๓  ประการของปฏิคาหก  อะไรบ้าง  คือ
ปฏิคาหกในธรรมวินัยนี้
๑. เป็นผู้ปราศจากราคะ  หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดราคะ
๒. เป็นผู้ปราศจากโทสะ  หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดโทสะ
๓. เป็นผู้ปราศจากโมหะ  หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดโมหะ
นี้คือองค์  ๓  ประการของปฏิคาหก

องค์  ๓  ประการของทายก  และองค์  ๓  ประการของปฏิคาหก  มีด้วยประการฉะนี้

ภิกษุทั้งหลาย  ทักษิณาอันประกอบด้วยองค์  ๖  เป็นอย่างนี้แล

ภิกษุทั้งหลาย  การกำหนดประมาณบุญแห่งทักษิณาอันประกอบด้วยองค์ ๖ อย่างนี้ว่า  'ห้วงบุญห้วงกุศลมีประมาณเท่านี้  นำความสุขมาให้  มีอารมณ์ดีเลิศ  มีวิบากเป็นสุข  เป็นไปเพื่อสวรรค์  เป็นไปเพื่อเกื้อกูล  เพื่อสุขที่น่าปรารถนา  น่าใคร่  น่าพอใจ'  มิใช่ทำได้ง่าย
แท้จริง  ห้วงบุญห้วงกุศลแห่งทักษิณานั้นถึงการนับว่า  'เป็นกองบุญใหญ่ที่นับไม่ได้  ประมาณไม่ได้'

เปรียบเหมือนการกำหนดปริมาณของน้ำในมหาสมุทรว่า  'น้ำมีปริมาณเท่านี้อาฬหกะ  น้ำมีปริมาณเท่านี้ ๑๐๐ อาฬหกะ  น้ำมีปริมาณเท่านี้ ๑,๐๐๐ อาฬหกะ  หรือน้ำมีปริมาณเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ อาฬหกะ'  มิใช่ทำได้ง่าย
แท้จริง  น้ำในมหาสมุทรนั้นถึงการนับว่า  'เป็นห้วงน้ำใหญ่ที่นับไม่ได้  ประมาณไม่ได้'  ฉันใด

ภิกษุทั้งหลาย  การกำหนดประมาณบุญแห่งทักษิณาอันประกอบด้วยองค์ ๖ อย่างนี้ว่า  'ห้วงบุญห้วงกุศลมีประมาณเท่านี้  นำความสุขมาให้  มีอารมณ์ดีเลิศ  มีวิบากเป็นสุข  เป็นไปเพื่อสวรรค์  เป็นไปเพื่อเกื้อกูล  เพื่อสุขที่น่าปรารถนา  น่าใคร่  น่าพอใจ'  มิใช่ทำได้ง่าย
แท้จริง  ห้วงบุญห้วงกุศลแห่งทักษิณานั้นถึงการนับว่า  'เป็นกองบุญใหญ่ที่นับไม่ได้  ประมาณไม่ได้'  ฉันนั้น"

จากนั้น  พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถานี้ว่า
       "ทายก  ก่อนให้ก็มีใจดี
เมื่อกำลังให้  ก็ทำจิตให้เลื่อมใส
ครั้นให้แล้ว  ก็มีใจเบิกบาน
นี้เป็นความถึงพร้อมแห่งยัญ (ทาน)
       ปฏิคาหกผู้สำรวม  ประพฤติพรหมจรรย์ทั้งหลาย
คือ  ท่านผู้ปราศจากราคะ  ปราศจากโทสะ
ปราศจากโมหะ  ไม่มีอาสวะ
ย่อมเป็นเขตที่สมบูรณ์แห่งการให้
       ทายกต้อนรับปฏิคาหกด้วยตนเอง
ถวายทานด้วยมือตนเอง
ยัญ (ทาน) นั้นย่อมมีผลมาก
เพราะตน (ทายกผู้ให้ทาน)  และเพราะผู้อื่น (ปฏิคาหก)
       ทายกผู้มีปัญญา  มีศรัทธา  เป็นบัณฑิต
มีใจพ้นแล้วจากความตระหนี่  บำเพ็ญทานอย่างนี้แล้ว
ย่อมเข้าถึงโลกที่เป็นสุข  ไม่มีความเบียดเบียน"

ทานสูตร  จบ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พยสนสูตร (อังคุตตรนิกาย > ปัญจกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > คิลานวรรค)

กาลียักขินีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > ยมกวรรค)

ปฏาจาราเถรีวัตถุ (ขุททกนิกาย > ธรรมบท > สหัสสวรรค)