วิปัตติสัมปทาสูตร (อังคุตตรนิกาย > ติกนิบาต > ตติยปัณณาสก์ > อาปายิกวรรค)
วิปัตติสัมปทาสูตร (ว่าด้วยวิบัติและสัมปทา)
พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า
"ภิกษุทั้งหลาย วิบัติ ๓ ประการนี้
วิบัติ ๓ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. สีลวิบัติ (ความวิบัติแห่งศีล)
๒. จิตตวิบัติ (ความวิบัติแห่งจิต)
๓. ทิฏฐิวิบัติ (ความวิบัติแห่งทิฏฐิ)
สีลวิบัติ เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
นี้เรียกว่า สีลวิบัติ
จิตตวิบัติ เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้เพ่งเล็งอยากได้ของของเขา มีจิตพยาบาท
นี้เรียกว่า จิตตวิบัติ
ทิฏฐิวิบัติ เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นวิปริตว่า 'ทานที่ให้แล้วไม่มีผล ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและชั่วก็ไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มีคุณ บิดาไม่มีคุณ โอปปาติกสัตว์ไม่มี สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบทำให้แจ้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งก็ไม่มีในโลก'
นี้เรียกว่า ทิฏฐิวิบัติ
เพราะสีลวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะจิตตวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะทิฏฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ภิกษุทั้งหลาย วิบัติ ๓ ประการนี้แล
ภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๓ ประการนี้
สัมปทา ๓ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. สีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล)
๒. จิตตสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยจิต)
๓. ทิฏฐิสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ)
สีลสัมปทา เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ
นี้เรียกว่า สีลสัมปทา
จิตตสัมปทา เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของของเขา ไม่มีจิตพยาบาท
นี้เรียกว่า จิตตสัมปทา
ทิฏฐิสัมปทา เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นไม่วิปริตว่า 'ทานที่ให้แล้วมีผล ยัญที่บูชาแล้วมีผล การเซ่นสรวงมีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและชั่วมี โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามีคุณ บิดามีคุณ โอปปาติกสัตว์มี สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบทำให้แจ้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งมีอยู่ในโลก'
นี้เรียกว่า ทิฏฐิสัมปทา
เพราะสีลสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
เพราะจิตตสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
เพราะทิฏฐิสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
ภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๓ ประการนี้แล"
วิปัตติสัมปทาสูตร จบ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น